โปร เน็ต ais ไม่ ลด ส ปี ด ราย เดือน ลูกค้า เก่า ซึ่งจะมีสิทธิ์ พิเศษมากมายจากพวกเรา ซึ่งเว็ปพวกเราเป็น Partner พื้นที่ ais ได้ออก โปร เน็ต ais ไม่ ลด ส ปี ด ราย เดือน ลูกค้า เก่า ราคาถูก มาเป็นพิเศษ เพื่อตอบแทนลูกค้าที่ใช้งานเครือค่าย ais มาอย่างช้านาน สำหรับลูกค้าใหม่ ทางเราก็มีโปรดีๆราคาถูกมาเสนอด้วยเช่นเดียวกัน ดูได้จากตารางเลยนะครับ
เน็ต ais ราย เดือน ไม่ ลด ส ปี ด โทร ฟรี
AIS2Pro.com มีบัญชีทางการ LINE แล้ว!
เป็นเพื่อนกันเถิด คุณจะได้รับข่าวสารที่มีคุณประโยชน์เยอะแยะ
ซื้อแพ็คเกจเน็ตได้ง่าย ไม่ต้องค้นหาอีกให้เสียเวลา
สารบัญหน้า
1. สมัครโปรเน็ต AIS 12Call ไม่ลดสปิด
1.1 เน็ตไม่ลดสปิด รายวัน
1.2 เน็ตไม่ลดสปิด รายสัปดาห์
1.3 เน็ตไม่ลดสปิด รายเดือน
2. สมัครโปรเน็ต AIS 12Call เน็ตเต็มสปิด
2.1 เน็ตเต็มสปิด รายวัน
2.2 เน็ตเต็มสปิด รายสัปดาห์
2.3 เน็ตเต็มสปิด รายเดือน
3. สมัครโปรเน็ต AIS 12Call 5G
4. สมัครโปรเน็ต AIS 12Call ทั้งยังเน็ตอีกทั้งโทรฟรี
5. โหลดโบรแน่นอนไว้สมัครคราวต่อมา
มุ่งสู่ Digital Transformation ด้วยแพลตฟอร์มแล้วหลังจากนั้นก็โซลูชัน B2B จาก AIS 5G Business
มุ่งสู่ Digital Transformation ด้วยแพลตฟอร์มรวมทั้งโซลูชัน B2B จาก AIS 5G Businessเป็นที่รู้กันว่า Digital Transformation คือเทรนด์ที่เกิดขึ้นมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว แม้กระนั้นด้วยโลกที่อนาคตกำลังจะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ก็เลยส่งผลให้ Digital Transformation นั้นไม่ใช่ “แนวทาง” อีกต่อไปสำหรับคนไหนที่กำลังทำธุรกิจอยู่แล้วก็ยังคงประสงค์อยู่ในสนามสำหรับแข่งถัดไปในโลกอนาคต
และก็แม้ว่าคนใดกันกำลังมองหาแพลตฟอร์มหรือโซลูชันใหม่ๆในการทำ Digital Transformation สำหรับหน่วยงานเพื่อให้สามารถตอบปัญหาทางธุรกิจได้ดิบได้ดีขึ้น หรือเร่งประสิทธิภาพได้สูงมากขึ้น มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ทาง AIS 5G Business มีโซลูชันรวมทั้งแพลตฟอร์มมากที่ช่วยเหลือตามความต้องการได้อย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งคณะทำงาน TechTalkThai จะมาสรุปแพลตฟอร์มและโซลูชันแบบ B2B จากทาง AIS 5G Business ที่มีในขณะนี้ให้ได้เห็นภาพรวมว่าเป็นยังไง ในเนื้อหานี้
องค์ประกอบเบื้องต้นแล้วหลังจากนั้นก็แพลตฟอร์ม 5G เป็นรากฐานสำคัญ
สำหรับในการทำโซลูชันแบบใหม่ๆเพื่อตอบปัญหาธุรกิจที่มากมายนั้นจะต้องมีพื้นฐานที่หนักแน่นและก็มั่นคง ซึ่งองค์ประกอบเบื้องต้นกับแพลตฟอร์ม 5G นี้เองคือส่วนที่สำคัญสำหรับในการนำไปต่อยอดเพื่อทำโซลูชันที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมได้ โดยปัจจุบันโซลูชัน 5G Infrastructure แล้วก็ 5G Platform ได้รองรับความต้องการในรูปแบบต่างๆดังต่อไปนี้
5G Network Slicing บริการแบ่งสรรโครงข่ายเหมือนแบบแบ่งส่วนได้แบบ End-To-End ตาม Workload ที่ปรารถนาใช้งาน โดยมี 3 แบบ ดังต่อไปนี้
eMBB Slicing เหมาะสมกับความต้องการ Throughput สูง อย่างเช่น ธุรกิจสื่อออนไลน์ต่างๆ
mMTC Slicing เหมาะกับการเชื่อมต่อเซ็นเซอร์หรือวัสดุอุปกรณ์ IoT มากๆเป็นต้นว่า ในโรงงานผลิตหรือธุรกิจค้าปลีก
uRLLC Slicing เหมาะกับธุรกิจที่อยากได้ Low Latency รวมทั้ง Reliability เป็นอย่างมาก ได้แก่ งานทางด้านการแพทย์ หรือรถยนต์ขับอัตโนมัติ
5G FWA PLUS (Fixed Wireless Access) บริการสร้างโครงข่ายแบบเฉพาะโดยที่ไม่จำเป็นที่ต้องวางสายเส้นใยใดๆก็ตามทั้งยังรับรองแบนด์วิดท์ที่เหนือกว่าบริการ FWA ปกติ โดยใช้ความสามารถของ Network Slicing ที่จะทำให้มั่นอกมั่นใจในการใช้งานเสมือนใช้งานสายไฟเบอร์ ซึ่งเหมาะสมกับงานที่เป็น Workload ที่เป็นงานที่สำคัญ (Critical Application) ต่อหน่วยงานมากมายๆในระดับที่ไม่สามารถที่จะรับข้อผิดพลาดได้นั่นเอง
5G MEC (Multi-Access Edge Computing) บริการระบบให้คะแนน Edge Computing ที่อยู่ใกล้ผู้ใช้งานมากที่สุด โดยในช่วงเวลานี้มีโซลูชัน 2 แบบ ได้เแก่
Shared MEC ที่จะแชร์ทรัพยากรใช้งานกัน ก็เลยเหมาะสมกับงานในธุรกิจที่ไม่ได้มีความซับซ้อนเท่าไรนัก ซึ่งจะมีผลให้สามารถขึ้นระบบใช้งานได้อย่างรวดเร็วรวมถึงใช้เงินทุนต่ำ
Dedicated MEC เป็นการผลิต MEC ขึ้นมาโดยยิ่งไปกว่านั้น ซึ่งเหมาะกับคนที่ประสงค์ Throughput สูงเยอะแยะๆและ Low Latency เพื่อการทำงานของธุรกิจ
5G Private Network บริการสร้างโครงข่าย 5G และก็ MEC ให้ใช้งานได้แบบส่วนตัว โดยมี 3 แบบที่มีให้บริการอยู่ตอนนี้ อย่างเช่น
Standard Grade โดยจะเป็นลักษณะแชร์ทรัพยากร MEC และก็ UPF ซึ่งเหมาะกับงานที่ปรารถนาเริ่มอย่างรวดเร็วและไม่สลับซับซ้อนมากเท่าไรนัก ตัวอย่างเช่น การทำงานทางไกลผ่านแว่น AR อัจฉริยะ หรือการเชื่อมโยงกับเครื่องใช้ไม้สอย IoT ทั่วๆไป ฯลฯ
Premium Grade ซึ่งเริ่มให้บริการในพื้นที่เฉพาะโซน EEC ก็เลยทำให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นกว่า Standard Grade ที่ช่วยลด Latency ก็เลยเหมาะกับงานเฉพาะทางต่างๆอย่างเช่น การควบคุมระยะไกลในงาน Machine Vision หรือหุ่นยนต์ AMR หรือกระบวนการทำโซลูชัน Smart City ฯลฯ
Exclusive Grade เป็นแบบที่จะสร้างโครงข่าย MEC และก็ UPF ให้ใช้งานแบบเฉพาะ ซึ่งจะเหมาะสมกับงานที่อยากได้ Low Latency และก็มีความเป็นส่วนตัว (Data Privacy) สูงมากๆเป็นต้นว่า วิธีทำระบบอัตโนมัติ (Automation) ในโรงงานอุตสาหกรรม หรือการผ่าตัดจากระยะทางไกล
5G Security Platform โดย AIS 5G Business ได้ร่วมมือกับพาร์ตเนอร์มากไม่น้อยเลยทีเดียวเพื่อสำหรับเพื่อการสร้างโซลูชันความปลอดภัยในแต่ละระดับ ไม่ว่าจะเป็น IoT Security, IT/OT Security หรือ Endpoint Security ที่จะผสมผสานกับโซลูชันอย่าง SD-WAN Firewall, Managed SASE แล้วก็บริการ CSOC เพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานหรือเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มจะมีความปลอดภัยจากการถูกคุกคามทางไซเบอร์ได้
เพิ่มราคาทางธุรกิจกับโซลูชัน 5G Horizontal/Vertical
ยกเว้นโซลูชันองค์ประกอบเบื้องต้นแล้วก็แพลตฟอร์ม 5G ที่ได้ให้บริการอยู่แล้วนั้น ทาง AIS 5G Business ยังต่อยอดการผลิตโซลูชันใน 2 แกน เช่น 5G Horizontal Applications และ 5G Vertical Solutions ที่จะให้ราคา (Value) กับธุรกิจเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม
โดย 5G Horizontal Applications จะเป็นบริการแอปพลิเคชันในแบบต่างๆสำหรับทุกกรุ๊ปธุรกิจ เพื่อสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น แนวทางการทำระบบ AR/VR, ระบบควบคุม Drone Robotics, แนวทางการทำ Machine Vision หรือ Digital Signage ฯลฯ ซึ่งเทคโนโลยี 5G จะมาเสริมคุณภาพในแต่ละโซลูชันที่มีในอีกขั้น เอื้อประโยชน์ให้ผู้ที่อยากได้ใช้งานโซลูชันพวกนั้นสามารถปรับใช้และก็นำไปใช้งานได้เร็วทันใจเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ดังตัวอย่างหนึ่งเกิดขึ้นมาที่ผ่านมาแล้วทีนี้คือการผลิต V-Avenue ที่เป็นห้าง Virtual Mall แบบเต็มต้นแบบที่ใช้งานโซลูชัน AR/VR ในการทำให้การช้อปปิ้งกำเนิดเป็นประสบการณ์มิติใหม่ในตอนการแพร่ระบาด COVID-19 ฯลฯ
ส่วน 5G Vertical Solutions นั้นเป็นการสร้างโซลูชันเชิงลึกในแต่ละภาคส่วน โดยได้สร้างความร่วมแรงร่วมใจกับผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านขึ้นมา เพื่อนำเอาเทคโนโลยี 5G เข้าไปเสริมความสามารถในแต่ละโซลูชันเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละอุตสาหกรรมก้าวหน้าขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นภาคขนส่งโลจิสติกส์ (Transportation & Logistics) อสังหาริมทรัพย์แล้วก็การค้าปลีก (Property & Retail) การแพทย์ (Healthcare) การเกษตร (Agriculture) รวมทั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นภาคการผลิต (Manufacturing) ที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดสำหรับเพื่อการดัดแปลง 5G ภายในโรงงาน ซึ่งจะเป็นส่วนที่สำคัญสำหรับเพื่อการเตรียมตัวไปสู่สมัย Thailand Industry 4.0 นั่นเอง
ความร่วมแรงร่วมใจคือหัวใจหลัก
สิ่งที่จำเป็นสำหรับการทำให้เกิดโซลูชันใหม่ให้เกิดขึ้นและใช้งานได้จริงนั้นซึ่งก็คือความร่วมแรงร่วมมือกันของผู้ชำนาญในอุตสาหกรรมต่างๆซึ่งทาง AIS 5G Business นั้นได้จัดแจงตามเฟรมเวิร์กสำหรับในการสร้างร่วมมือกับผู้ชำนาญในแต่ละภาคส่วนอุตสาหกรรมมาอย่างสม่ำเสมอ โดยในปี 2022 AIS ก็จะยังคงเฟ้นหาพาร์ตเนอร์ใหม่มาผนึกกำลังกันต่อยอดและสร้างเป็นโซลูชันแบบใหม่ๆอยู่อย่างสม่ำเสมอ
โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งก่อนหน้านี้ ทาง AIS 5G Business ได้เริ่มสร้างความร่วมแรงร่วมมือเป็น Key Strategic Partner กับหลายองค์กรแล้ว อย่างเช่น OMRON, Mitsubishi Electric, TKK, Tata Consultancy Services และก็ Schneider Electric ซึ่งจากความร่วมแรงร่วมมือที่เกิดขึ้นกลุ่มนี้เองที่ได้นำมาซึ่งเป็นโซลูชันแบบใหม่ที่สามารถเอาไปใช้งานเป็น Smart Manufacturing ในภาคอุตสาหกรรมของเมืองไทยได้แล้วเป็นที่เป็นระเบียบเรียบร้อย
เป็นที่รู้กันว่า ในภาคอุตสาหกรรมการสร้างในอดีตมักมีขั้นตอนต่างๆมากรวมถึงชอบทำงานแบบ Manual อยู่ ซึ่งทำให้ใช้เวลานานกว่าที่จะต้องเป็นในสายการสร้างเรื่อยๆมา แต่อันที่จริงแล้ว ปัญหากลุ่มนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยเทคโนโลยี 5G หรือ AI และก็ Big Data ที่จะสามารถพลิกโฉมหรือเปลี่ยนแปลงแนวทางการต่างๆภายในสายการผลิตให้มีคุณภาพสูงขึ้นได้อย่างมาก ตัวอย่างเช่น การใช้แรงงานระบบ Automation ในสายการผลิต การใช้ AI พินิจพิจารณาข้อมูลเพื่อทายถึงขณะสำหรับในการรักษาเครื่องจักรได้ล่วงหน้าอย่างเที่ยงตรง หรือแนวทางการทำนายอุปสงค์อุปทาน (Demand Supply) เจริญขึ้นซึ่งทำให้สามารถบริหารจัดแจงสายการผลิตให้เป็นไปตามความอยากของตลาดได้ทันทีทันควัน ฯลฯ
และด้วยความร่วมแรงร่วมมือต่างๆที่เกิดขึ้น ก็เลยนำไปสู่เป็นโซลูชันที่รองรับการทำ Smart Manufacturing โดยสามารถเกื้อหนุนเปลี่ยนแปลงสายการสร้างให้มีคุณภาพดีกว่าเดิมในแต่ละส่วน อีกทั้งวิธีการทำให้กำเนิด Smart Workforce, Smart Production Line, Smart Workplace, การผลิตเป็น Remote Factory พร้อมระบบ Energy & Emission Management แล้วก็ Smart Logistics & Warehouse โดยตัวอย่างโซลูชันที่ร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ที่เกิดขึ้นแล้ว ดังเช่น
ความร่วมแรงร่วมมือกับ OMRON ในการทำ Layout-free Production Line ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างสายการสร้างได้แบบ Real Time ที่จะทำให้ไม่มีข้อจำกัดกับสายที่วางตามองค์ประกอบอีกต่อไป ความร่วมแรงร่วมมือกับ Mitsubishi Electric รวมทั้ง TKK ในการทำ Remote Monitoring จากด้านนอกโรงงาน ทำให้โรงงานสามารถปฏิบัติงานได้ตามธรรมดาโดยที่ไม่สำคัญควรมีมนุษย์เข้าไปที่หน้างานตลอดเวลาความร่วมแรงร่วมใจกับ Tata Consultancy Services สำหรับการทำ Digital Twin ซึ่งสามารถเลียนแบบ (Simulation) และก็เคลื่อนย้ายสายการสร้างไปๆมาๆได้ดังที่อยากได้ หรือวิธีการทำ Smart Workforce ซึ่งสามารถตรวจค้นวัตถุถูกสงสัยหรือเหตุการณ์พลิกผันภายในโรงงาน การผลิต Energy Management ในการพินิจพิจารณาข้อมูลการใช้งานพลังงานเพื่อช่วยออมรายการจ่าย แล้วหลังจากนั้นก็ระบบ Logistics Optimizer ที่สามารถค้นหาทางขนส่งที่เยี่ยมที่สุดด้วยระบบ AI เพื่อกำเนิดประสิทธิผลสูงสุดความร่วมแรงร่วมมือกับ Schneider Electric ในระบบ EcoStruxure ด้วยการใช้แรงงานร่วมกับ 5G ที่ช่วยเหลือให้ระบบ Machine Advisor สามารถสำรวจติดตามวัสดุอุปกรณ์ต่างๆและนำข้อมูลมาพินิจพิจารณาได้อย่างรวดเร็ว หรือระบบ Connect Advisor ที่สามารถดึงข้อมูลที่ได้มาจากเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆออกมาแล้วส่งไปพินิจพิจารณาต่อได้อย่างทันการ
ผลสรุป
จากทั้งสิ้นนี้ จะมองเห็นได้ว่าทาง AIS 5G Business และก็พาร์ตเนอร์ได้มีโซลูชันมากที่รองรับความต้องการในแต่ละอุตสาหกรรม ซึ่งด้วยแพลตฟอร์ม 5G และองค์วิชาความรู้ความเชี่ยวชาญของคณะทำงาน AIS 5G Business ที่มาพร้อมด้วยพาร์ตเนอร์ที่คร่ำหวอดในทุกแวดวงนั้น น่าเชื่อถือเลยว่าจะสามารถมอบแพลตฟอร์มและก็โซลูชันแบบ B2B ให้ธุรกิจแต่ละเจ้าสามารถก้าวผ่านข้อจำกัดต่างๆไปได้อย่างแน่แท้
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : โปร เน็ต ais ไม่ ลด ส ปี ด ราย เดือน ลูกค้า เก่า
ขอบคุณบทความจาก : https://www.ais2pro.com/monthold/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น